ตัว(ไร) อ่ะ?!? หน้าฝนนี้ ระวังไรฝุ่น

ช่วงนี้เมืองไทยเปลี่ยนเป็นฤดูฝนแล้ว
        พออากาศเย็นก็ขึ้นค่อยสบายตัวหน่อย อากาศเปลี่ยนแปลงก็ดูแลตัวเองกันด้วยนะทุกคน เพราะว่าหน้าฝนเป็นช่วงที่หลายๆคนพบว่ามีปัญหาเรื่องการหายใจมากกว่าปกติเนื่องจากความชื้นในอากาศ โรคภูมิใจทางเดินหายใจหลักๆก็มี โรคหอบหืด โรคแพ้อากาศ หรือโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ รู้หรือไม่ว่าสาเหตุหลักๆของอาการภูมิแพ้เหล่านี้เนี่ย มักจะมาจากปริมาณไรฝุ่นที่เพิ่มขึ้นในอากาศเนื่องจากความชื้นที่สูงขึ้น

ถามว่าไรฝุ่นมาจากไหน

 ความจริงมันมีอยู่ทุกที่นั่นแหละ แต่ที่เป็นแหล่งชุกชุมเลยก็จะเป็นตามที่มืดๆ มีเส้นใยซับซ้อน เช่น หมอน ผ้าห่ม พรม เฟอร์นิเจอร์  โดยจะชอบอยู่ในที่ร้อนชื้น อย่างประเทศไทยเรา ซึ่งอากาศมีความชื้นสัมพัทธ์ ที่ 70-80% ไรฝุ่นเติบโตได้ดีเลยทีเดียว

      เอ้ะ แล้ว ไรฝุ่นมันคืออะไรกันแน่ หลายคนเคยได้ยินแต่ก็ไม่ค่อยเข้าใจว่ามันคืออะไร เป็นสัตว์หรือเป็นฝุ่นกันแน่ วันนี้เลยมาไขข้อข้องใจคร่าวๆ นะ

ตัวไร เนี่ย เป็นแมงขนาดเล็กตระกูลเดียวกับพวกเห็บ มีหลายสายพันธ์ เช่นไรของสัตว์ เช่น ไรนก ไรหนู ไรพืช ส่วนตัวไรฝุ่นที่ซี้กับมนุษย์เราเลยเนี่ย เรียกว่า ไรฝุ่นบ้าน (house dust mite) ถ้าไครบอกว่าเคยเห็นตัวไรฝุ่น อย่าไปเชื่อเลย โม้แน่นอน เพราะว่าตาเรามองไม่เห็นแน่นอน เจ้าไรฝุ่นขนาดเล็กมากๆเกือบเท่าจุดดินสอ (ประมาณ 0.1-0.3 มม) ต้องใช้กล้องจุลทรรศน์ส่องเท่านั้นถึงจะเห็น ตัวจะชอบซ่อนอยู่ตามที่ซอกมุมมืดๆ ในบ้าน โดยเฉพาะที่นอน หมอน โซฟา พรม

บุฟเฟต์รังแค

ทีนี้เพื่อนๆคงถามว่า แล้วทำไมมันถึงชอบไปอยู่ในที่พวกนั้น

ก็เพราะเจ้าพวกนี้มันชอบกินเศษผิวหนัง และรังแคของเรามากไงล่ะ! (สะพรึงมากจ้า)

ถ้าเราลองนึกดูนะ ในเวลา24ชม. เฉลี่ยแล้วเราใช้เวลาตั้ง6-9ชมต่อวันแน่ะบนที่นอน (ช่วงล้อคดาวไม่ต้องพูดถึง น่าจะมากกว่านั้นอีก เหอๆ) คิดดูว่าขี้ไคลเราที่สะสมตามที่นอน น่าจะประหนึ่งเหมือน บุฟเฟ่ต์ให้ไรฝุ่นกินกันอย่างสำราญ…

 

ไหน ไครสงสัยว่ามีไรฝุ่นกัดเรา หรือดูดเลือดเราไหม ตอบได้เลยว่าไม่ใช่ผลงานไรฝุ่นแน่นอน เพราะไรฝุ่นกินเฉพาะ เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว (dead skin cells) ที่อยู่ตามที่ต่างๆ
    อาทิเช่น ที่ๆ เราชอบนั่งเล่น นอนเล่น คือตัวไรมันไม่ได้มีฟันกัดคนได้โดยตรง ดังนั้นหากมีอาการคันผิวหนัง น่าจะมาจากการเจอสารระคายเคืองอื่นๆนะ

ไหนใครชอบเอาขนมมากินบนเตียง ยอมรับมา

 

เพราะว่านอกจากนี้ไรฝุ่นยังชอบเสวยบนพวกสปอร์เชื้อรา (mold spore) พบตามอาหารที่เราวางทิ้งไว้ หรือเศษอาหารที่ตกหล่น ยิ่งที่ร้อนๆชื้นๆอย่างประเทศไทยเราเนี่ย น้องไรยิ่งเลิฟจ้า เอาล่ะ ถึงตอนนี้เริ่มรู้สึกสยองกันหรือยัง

เวลาเติบโตของไรฝุ่น ตั้งแต่ฟักไข่จนถึงขั้นสืบพันธ์ได้ ใช้เวลา1เดือน และตัวแก่ของไรฝุ่นโดยจะมีชีวิตอยู่มากสุด 2เดือน แต่ ตัวเมียเนี่ย สามารถออกไข่ได้1-3ฟองต่อวันเลยนะ

 

สิ่งที่อันตรายจากน้องๆไรฝุ่นก็คือ ของเสีย (มูลไร) ของมันเนี่ยแหละ เป็นมันเป็นสารก่อภูมิแพ้ชั้นดีเลย เมื่อนานๆสูดดมเข้าไป แม้คนที่ไม่ได้เป็นโรคภูมิแพ้อยู่แล้ว ก็อาจจะเริ่มมีอาการโรคภูมิแพ้ดังกล่าว:

  • อาการจาม
  • มีน้ำมูกไหล
  • คันดวงตา ตาระคายเคือง ตาแดง มีน้ำตาไหล
  • จมูกตัน
  • คันจมูก ปาก คอ
  • อาการไอ

แล้วนี่ช่วงไวรัสระบาด เห็นใครไอ (หรือเราไอเอง!) ก็ระแวงสุดๆแล้ว อย่าให้อาการแพ้ไรฝุ่นมาทำเราสับสนเลยดีกว่า วันนี้เรามาเสนอวิธีป้องกันไรฝุ่นในบ้านแบบเบสิคๆกันจ้า

เราจะแบ่งการป้องกันเป็นใน2ข้อ คือ 1.การคุมความชื้นในอากาศ   และ 2. ทำความสะอาดสิ่งทอในห้อง

 

1.อากาศ

การดูแลลักษณะอากาศในห้องนั้นสามารถทำได้ง่ายๆโดยการหมั่นเปิดหน้าต่าง ประตูให้ลมโกรกเข้าห้อง มีอากาศถ่ายเท ลดความอับชื้นได้ และที่สำคัญให้แสงแดดส่องเข้าในห้องด้วย

ส่วนในหน้าฝนนั้น หากท่านใดเป็นโรคภูมิแพ้ ก็อาจแนะนำให้มีเครื่องลดความชื้นในอากาศ (dehumidifier) ไว้ติดห้องเลย เพราะนอกจากจะสามารถช่วยลดปริมาณ ของไรฝุ่น ได้แล้ว ยังลดสปอร์ราได้ เนื่องจากการเติบโตของเจ้าสารภูมิแพ้จะช้าลงมากเมื่อระดับความชื้นในห้องต่ำ โดยเปอร์เซ็นความชื้นที่ช่วยต้านไรฝุ่นและราได้ อยู่ที่ 40-50% นะจ๊ะ

  1. ทำความสะอาดสิ่งทอในห้อง

            เดี๋ยวนี้ตามท้องตลาดมีเครื่องดูดไรฝุ่นขนาดเล็กราคาย่อมเยา บางอันมีฟังค์ชั่น ฆ่าเชิ้อโรคผ่านแสง UV ซึ่งแม้ว่าตามทฤษฎีนั้น แสง UV มีประสิทธิภาพช่วยฆ่าตัวไรฝุ่นได้ก็จริง  ในความเป็นจริงสามารถช่วยได้แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะไรฝุ่นมักหลบอยู่หลังซอกเส้นใย ทำให้แสงUV ไม่สามารถโดนทุกตัว 100% หรอกนะ

            ยังไงแนะนำว่าเครื่องดูดไรฝุ่นที่เวิร์ค จะต้องมี HEPA filter ซึ่งสามารถทั้งกรองและดักสารก่อภูมิแพ้ได้ 99.97% หากใครยังไม่มีเครื่องดูดฝุ่นที่นอน วิธีพื้นบ้านเลยก็คือ การนำเครื่องนอนไปสะบัดข้างนอก ตากไว้สัก 2-3ชม. ในวันที่แดดออกจัดๆ สักอาทิตย์ละ1-2ครั้ง ก็ช่วยลดตัวไรได้นะ

            อีกอย่างคือ ให้หมั่นซักเครื่องนอนทุกๆ 2 สัปดาห์ การซักโดยใช้ผงซักฟอก สามารถล้างสารก่อภูมิแพ้ได้มากถึง 84%

              สำหรับท่านที่ใส่ใจสุขภาพอาจอยากรู้ว่า เอ้ะ แล้ว ที่นอนเนี่ย มันมีแบบกันไรฝุ่นในตัวไปเลยหรือปล่าว วันนี้มาชี้เป้าว่าเครื่องนอน Sleepen เนี่ย เค้าใช้ผ้านิตแจ็คการ์ดที่ผสานนวัตกรรม Viroblock จากสวิสเซอร์แลนด์ ที่นอกจากจะมีคุณสมบัติต้านไวรัส และ แบคทีเรียแล้ว ยังต้านไรฝุ่นอีกด้วย  ได้รับการยืนยันจากห้องแล็บชั้นนำ ได้แก่ สหราชอาณาจักร , ประเทศจีน ภายใต้มาตรฐาน ISO 18184 และ มหาวิทยาลัยมหิดล

             อ้อ Sleepen เขาทำหน้ากากผ้าด้วยนะ แน่นอนว่าใช้นวัตกรรมป้องกันไรฝุ่นเหมือนกันนะจ๊ะ ใครที่มีอาการภูมิแพ้ จะฤดูนี้ หรือทุกฤดู แอดมินว่า ควรตำเลยจ้า

Blogger Bibi

  • All
  • ที่นอนผู้สูงอายุ
  • ผลวิจัยการนอนเพื่อสุขภาพ
  • พฤติกรรมการนอนน้อย
  • ภูมิแพ้
  • ภูมิแพ้ ไรฝุ่น ไวรัส เชื้อรา ในที่นอน
  • วิธีดูแลตัวเอง
  • วิธีเลือกที่นอน
  • อาการจาม
  • โรคจมูกอักเสบ
  • ไรฝุ่น